ชื่อหินสีนี้มาจากภาษากรีกคำว่า มาร์โมโรส (marmoros) หินอ่อน คือหินเนื้อแน่น ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต ที่ตกผลึกเป็นแคลไซท์เม็ดเล็กๆ บรรดาหินอ่อนทั้งหลายนั้นเกิดจากแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งได้สะสมเอาไว้ในท้องทะเล หรือมหาสมุทรมาก่อน

ต่อมาได้เกิดมีการเคลื่อนไหวขึ้นในบริเวณดังกล่าว คือที่ๆ เคยเป็นทะเล หรือมหาสมุทรมาก่อน ก็ต้องกลายเป็นตรงกันข้าม กล่าวคือทะเลกลายเป็นภูเขาขึ้นมา และที่ๆ เคยเป็นบกเป็นภูเขามาก่อนก็กลับเป็นทะเล และในกรรมวิธีการเช่นว่านี้ยังพรั่งพร้อมไปด้วยอาการต่างๆ ทางธรณีอีกเช่น เกิดมีแมกมาไหลออกมา และพอดีหินที่สะสมไว้ในทะเลเมื่อก่อนโน้น ไปโดนกับแมกมาดังกล่าวเข้า และการที่แมกมาไหลขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยความร้อน ความดัน และกาซต่างๆ เลยทำให้แคลเซียมคาร์บอเนต ต้องละลายแล้วตกผลึกอีกจึงเกิดเป็นหินอ่อนขึ้นมาได้ในที่สุดหินอ่อนมีอยู่ทั่วไป และมีมากด้วย

บางทีเราจะเห็นว่าเขาทั้งเทือกเป็นหินอ่อนหมด และในกรณีที่เกิดการหลอมละลาย แล้วตกผลึกไม่หมดทีเดียวนั้น ก็จะเกิดหินปูนคล้ายหินอ่อน ซึ่งในหินที่กล่าวนี้เราจะพบบรรดาพวกซากเปลือกหอยทะเลต่างๆ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยอยู่รวมกับตะกอนพวกแคลเซียมคาร์บอเนตดังกล่าวมาก่อนดังนั้นจะเห็นว่าการเกิดหินอ่อนนั้นเป็นกรรมวิธีที่ยุ่งยาก และสลับซับซ้อนหลายครั้งหลายหน เริ่มตั้งแต่เป็นตะกอนนอนอยู่ก้นท้องทะเล หรือมหาสมุทร ไปจนถึงการตกเป็นผลึก และการอันดแน่นภายใต้ความดัน และอุณหภูมิสูงๆ

นอกจากนั้นยังมีแร่ชนิดอื่นๆ นานาชนิดเจือปนอยู่ด้วย รวมทั้งซากสัตว์ทะเลต่างๆ ก็เจือปนอยู่อีกเช่นกัน ผลก็คือว่าหินอ่อนแต่ละแหล่งไม่เหมือนกันเสมอไป จะแตกต่างกันทั้งคุณสมบัติทางฟิสิกส์ และเคมี และทั้งสีก็จะต่างกันด้วย หินอ่อนสีขาวที่เกิดจากผลึกของแคลไซท์ เม็ดเล็กๆ ละเอียดๆ นั้นหายากกว่าหินอ่อนที่มีสี การที่หินอ่อนมีมากมายหลายสีนั้นขึ้นอยู่กับบรรดาสิ่งเจือปนต่างๆ เช่น แมงกานีสออกไซด์ และเหล็กออกไซด์ ก็ทำให้หินอ่อนมีสีต่างๆ

แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณ และอัตราส่วนของออกไซด์ทั้งสองดังกล่าวด้วย ที่ว่าออกไซด์ทั้งสองนั้นทำให้หินอ่อนมีสีต่างๆ เช่นสีแดง สีดอกกุหลาบ สีเหลือง สีน้ำตาลเหลือง และสีน้ำตาลไหม้ เป็นต้น แต่ถ้ามีแกรไฟท์ และบิทูเมนอยู่ด้วย หินอ่อนก็จะมีเงาออกเป็นสีเทา จนกระทั่งถึงสีดำ ดังเช่นหินอ่อนจากไครเมียร์ (ครึม) นั้นเป็นหินอ่อนสีเขียว และที่อัลไตเป็นหินอ่อนสีม่วง

นอกจากนั้นแล้วยังมีหินอ่อนที่มีลวดลายสวยงามต่างๆ อีกมากมายหินอ่อนเม็ดละเอียดนั้นขัดมันง่าย และได้มีการเอาหินอ่อนชนิดนี้มาใช้แกะสลักกันตั้งแต่ในสมัยโบราณแล้ว เช่นใช้แกะรูปคนในทางด้านศิลปะเป็นต้น นอกจากนั้นยังใช้ประกอบรอบนอกสิ่งอื่นอีกด้วย

โดยเฉพาะในสิ่งก่อสร้างเป็นต้นหินอ่อนได้มีบทบาทสำคัญมากในด้านวัฒนธรรม อันแสดงถึงความเจริญของมนุษย์สมัยโบราณ เช่น หินอ่อนสีขาวจากประเทศกรีก และอิตาลี ได้นำเอาไปใช้แกะรูปศิลปะ ต่างๆ มากมายในสมัยโบราณ แม้แต่ในสมัยปัจจุบันก็ยังนิยมใช้กันมาก และรวมทั้งใช้แปะฝาผนังตึก และแปะรอบๆ เสาอีกด้วย ดังจะเห็นได้อยู่ทั่วไป หินอ่อนในบ้านเรานั้นส่วนใหญ่มาจากแหล่งหินอ่อนในจังหวัดสระบุรี

ที่มา: http://patchra.net/minerals/MinDesc/color07.php

7. หินอ่อน (Marble)